ชีวิตใหม่ที่ไม่คาดหมาย
ความยากจนเป็นอุปสรรคใหญ่ของการศึกษา และเมื่อวันที่มีมือหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ คฑาวุฒิจึงได้เดินทางมาถึงวันที่ได้เป็นสถาปนิก โดยที่ไม่เคยลืมบอกเด็กรุ่นหลังให้ตระหนักถึงคุณค่าของการเรียนรู้
หากจะกล่าวว่าทุนมูลนิธิบางกอกโพสต์ เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคฑาวุฒิ วิศรีธิปกรณ์ ก็คงจะไม่ผิด
เป็นเวลากว่า 13 ปี ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จนถึงระดับปริญญาตรี ที่คฑาวุฒิได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ ปัจจุบันคฑาวุฒิทำงานเป็นนักออกแบบภายใน ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่วัยเยาว์ของเขา
ทางมูลนิธิพบกับคฑาวุฒิครั้งแรกในวัย 11 ปี ที่อุทยานแห่งชาติลานสาง จังหวัดตาก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ปกครองของเขาทำงานในฐานะลูกจ้าง แต่ละเดือนพ่อและแม่ของคฑาวุฒิมีรายได้จากการทำงานเพียงไม่กี่พันบาท แต่ต้องใช้เลี้ยงปากท้องของคนถึงสามคน เมื่อทางมูลนิธิได้พูดคุยและเข้าไปดูสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว จึงตัดสินใจมอบทุนการศึกษาให้กับคฑาวุฒิตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“ช่วงก่อนที่ผมจะเข้ามหาวิทยาลัย ทางบ้านมีปัญหาทางการเงินเยอะมาก แต่พ่อแม่ก็อยากให้เราเรียน และสุดท้ายผมก็สอบเข้าเรียนในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ได้ตามที่หวัง การได้รับทุนช่วยได้มาก เพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนสูง
“ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยบริจาค ทำให้ผมเหมือนได้ชีวิตใหม่ ถ้าไม่ได้รับทุน ก็ไม่รู้ว่าผมจะได้มาทำงานตรงนี้หรือเปล่า ไม่รู้ว่าระบบความคิดของเราจะเป็นยังไง”
นอกจากนั้น มูลนิธิยังสอนให้คฑาวุฒิคอยจดบันทึกรายรับรายจ่ายเพื่อรายงานสถานการณ์ทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ
“เวลาเรามีปัญหาทางมูลนิธิก็จะคอยให้คำปรึกษาเราว่าเราควรทำอย่างไร คำแนะนำเหล่านั้นเป็นแรงสำคัญที่ทำให้เราพยายามมากขึ้น ไม่ยอมแพ้ในสิ่งที่ทำให้ตัวเองทำไม่ได้”
มาถึงตอนนี้คฑาวุฒิทำฝันของตัวเองได้สำเร็จไปขั้นหนึ่ง ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ลืมที่จะตอบแทนสังคม เขากล่าวว่าสิ่งหนึ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือคอยเน้นย้ำสนับสนุนเด็กๆทุกคนให้เห็นความสำคัญของการศึกษา เพราะการศึกษาคือสิ่งที่มีประโยชน์และสิ่งที่เรียนจะกลับมาตอบแทนตัวเองและสังคมในวันหนึ่ง