อุปสรรคคือแรงผลักดัน

หากไม่ใช่เพราะทุนการศึกษาและความไม่ย่อท้อ ชีวิตนัฐภูมิอาจจบลงตรงอาชีพขายล็อตเตอรี่ แทนที่จะได้รับการศึกษาระดับปริญญาตรี และเขายังได้นำความรู้และบทเรียนที่ได้มาไปช่วยเหลือผู้อื่นที่พิการทางสายตาเสมอมา

นายนัฐภูมิ แสงประสิทธิ์ - จังหวัดกรุงเทพมหานคร - ปริญญาตรี สาขาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - พนักงาน บริษัทแอดวานส์ คอนแทค เซ็นเตอร์
นายนัฐภูมิ แสงประสิทธิ์
– จังหวัดกรุงเทพมหานคร
– ปริญญาตรี สาขาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
– พนักงาน บริษัทแอดวานส์ คอนแทค เซ็นเตอร์

นัฐภูมิเป็นผู้พิการทางสายตา ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่พร้อมกับเกียรตินิยมอันดับสอง อย่างไรก็ตามเขากล่าวว่าเขาไม่อาจมาถึงจุดนี้ได้ หากไม่ได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิบางกอกโพสต์

สมัยที่นัฐภูมิเป็นเด็กเขาอาศัยอยู่กับตายายที่มีอาชีพทำสวน ส่วนแม่เป็นลูกจ้างทั่วไป รายได้ของครอบครัวจึงอยู่ในระดับต่ำ ตั้งแต่ระดับประถมจนถึงมัธยมศึกษา นัฐภูมิเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลที่บ้านเกิด จึงไม่เคยต้องกังวลเรื่องค่าเล่าเรียน แต่เมื่อถึงระดับมหาวิทยาลัยเงินทุนกลับกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญ

คุณครูในระดับมัธยมเป็นผู้สนับสนุนออกค่าเล่าเรียนมหาวิทยาลัยในเทอมแรก แต่ระหว่างนั้นนัฐภูมิไม่เคยละทิ้งความกังวลใจเรื่องค่าเล่าเรียนได้ลง ทุกครั้งที่เขามีเวลาว่าง เขาจะลงไปขายล็อตเตอรี่ที่กรุงเทพฯ เพราะนี่คือหนทางเดียวที่พอจะทำให้นัฐภูมิมีหวังในการศึกษาต่อ

วันหนึ่งนัฐภูมิก็ได้รับข่าวดีว่าทางมูลนิธิจะมอบทุนให้เขาเรียนจบปริญญาตรี “ตอนนั้นเราดีใจมาก เหมือนปัญหาทุกอย่างมันมีทางออก เรื่องเรียนเราไม่ห่วงอยู่แล้ว เราเรียนได้ แต่ปัจจัยที่จะทำให้เราไปไม่รอดคือเรื่องเงิน เราเคยคิดว่าถ้าเราเรียนไม่จบ เราคงต้องไปขอทาน ไม่ก็ขายล็อตเตอรี่”

“ขอบคุณมูลนิธิและผู้สนับสนุนทุกท่านที่เป็นเหมือนผู้ให้โอกาสให้เรายืนด้วยขาของตัวเองได้ เพราะถึงแม้เราจะมีความสามารถ แต่ถ้าเราไม่มีโอกาส เราก็ทำอะไรไม่ได้”

ทุนที่นัฐภูมิได้รับเป็นทุนให้เปล่า แต่ความรู้สึกของการเป็นผู้ได้รับโอกาสทำให้เขายังรู้สึกค้างคาใจอยู่เสมอว่าเขาควรจะทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบแทนสังคม

“เราเห็นคนที่เขาทำเพื่อเรา ให้ทุนเราโดยไม่ได้อะไรตอบแทน เลยทำให้เรารู้สึกว่าอยากเป็นแบบนั้นบ้าง เราใช้วิธีเอาความรู้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ที่เรามีไปสอนเพื่อนๆ พี่น้องที่ตาบอดฟรี ในทุกๆปี”

“เรามองว่าอุปสรรคต่างๆ เป็นแรงผลักให้เราต้องทำได้ดีขึ้น และหากว่ามีโอกาสเข้ามาในชีวิต เราต้องคว้ามันไว้และเชื่อว่าเราต้องทำได้ ถึงแม้อุปสรรคทางร่างกายจะทำให้เราไม่เหมือนคนปกติร้อยเปอร์เซนต์ แต่เราก็ต้องไม่ลืมถามตัวเองว่าเราพยายามมากพอแล้วหรือยัง”