ความรู้มีไว้ให้ส่งต่อ
สุรสิทธ์มาจากครอบครัวใหญ่ฐานะยากจน เริ่มหารายได้ตั้งแต่เด็กตั้งแต่ช่วยขายปาท่องโก๋ไปจนถึงชีวิตเด็กปั๊ม วันนี้เขาได้เป็นครูที่ใฝ่ฝัน เพื่อเอาประสบการณ์มี่ผ่านมาช่วยเหลือเด็กอื่นๆเพื่อให้ได้มีอนาคตที่ดีกว่า
“ช่วงที่เกิดสึนามิ ผมอายุ 16 ปี ทั้งหมู่บ้านและโรงเรียนได้รับผลกระทบอย่างมาก โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนเกือบ 1 เดือน ตอนนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิบางกอกโพสต์ได้เข้ามาที่โรงเรียนและสอบถามว่า มีเด็กคนใดที่ยากจน แต่อยากจะเรียนหนังสือ ซึ่งคุณครูแนะแนวได้เสนอชื่อผมไป และผมก็ได้รับทุน
“ครูสอนผมว่า เมื่อได้รับโอกาสตรงนี้แล้ว อยากให้ผมนำสิ่งดีๆที่มูลนิธิมอบมา ส่งต่อให้กับคนอื่นๆต่อไปในอนาคต”
สุรสิทธ์ได้รับทุนการศึกษาตั้งแต่มัธยมศึกษาปีที่4 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่6 เมื่อเรียนจบ เขาเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ เพื่อจะได้เก็บเงินเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
เมื่อทำงานครบหนึ่งปี สุรสิทธ์สมัครเข้าเรียนในคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และติดต่อขอรับทุนอีกครั้งหนึ่งจากมูลนิธิ
“ความช่วยเหลือของมูลนิธิทำให้ผมเรียนจบปริญญา โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินเรียน”
ขณะนี้สุรสิทธิ์ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูสอนภาษาไทย ที่จังหวัดสมุทรปราการ
“การให้โอกาสคนผมถือว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก และผมก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ได้อย่างที่มูลนิธิหวัง เมื่อผมได้พบกับเด็กที่มีลักษณะเช่นเดียวกับผมเมื่อตอนเด็ก ผมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือ เพราะผมเข้าใจในความรู้สึกนั้น
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมอยู่ในสถานะครู ผมจะพยายามทำความรู้จักกับนักเรียนทุกคน หากมีอะไรที่พอจะช่วยเหลือเด็กและครอบครัวของพวกเขาได้ ซึ่งอาจไม่มากในขณะนี้ แต่ผมก็จะทำทันที”
สุรสิทธ์กล่าวว่าการศึกษาจะช่วยให้เด็กอยู่ในแนวทางที่ดี มีพัฒนาการทางความคิด คิดที่จะพัฒนาตัวเองสู่การพัฒนาที่ดีกว่าในอนาคต ถ้าเด็กเป็นเด็กดี สังคมก็จะดี ประเทศชาติย่อมเจริญ